มารู้จักสแตนเลสกัน

สแตนเลส หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า เหล็กกล้าไร้สนิม มีความต้านทานการกัดกร่อนสูง เป็นโลหะที่ผสมกันระหว่างเหล็กและคาร์บอน ซึ่งจะมีปริมาณคาร์บอนต่ำ โครเมียมเป็นส่วนประกอบหลักประมาณ 10.5% ด้วยคุณสมบัติที่ไม่เหมือนโลหะอื่น เช่น ยากต่อการขึ้นสนิม มีความแข็งแรง เงางาม ทำความสะอาดได้ง่าย ระยะเวลาการใช้งานคุ้มค่า จึงทำให้เป็นโลหะที่มีคุณค่าและมีประโยชน์ใช้สอยอย่างมาก แบ่งประเภทของสแตนเลสออกเป็น 4 กลุ่มใหญ่ตามโครงสร้าง

 

สแตนเลส

 

ตระกูลออสเทนนิติค (Austenitic)  หรืออีกชื่อคือ ซีรี่ส 300 กว่า 70 เปอร์เซนต์ของการผลิตสเตนเลสในโลกนี้เป็นตระกูลออสเทนนิติค ที่ประกอบด้วยคาร์บอนอย่างน้อย 0.15 เปอร์เซนต์ มีส่วนผสมของโครเมียมอย่างน้อย 16 เปอร์เซนต์ และ นิกเกิล สเตนเลสตระกูลออสเทนนิติคนี้มีคุณสมบัติโดดเด่นในด้านการใช้งานที่อุณหภูมิต่ำติดลบ ไปจนถึงที่อุณหภูมิสูง จึงใช้งานได้หลากหลายในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น ปิโตรเคมี อุตสาหกรรมเหมืองแร่

ตระกูลเฟอร์ริติค (Ferritic) มีคุณสมบัติดูดแม่เหล็ก โครเมียมเป็นธาตุผสมหลักระหว่าง 10.5-27 เปอร์เซนต์ บางเกรดผสมนิกเกิ้ลลงไปเล็กน้อย บางเกรดผสมโมลิบดินัม หรืออลูมิเนียม ไททาเนียม นิยมใช้งานเป็นเครื่องมือบนโต๊ะอาหาร เช่น มีด ช้อนส้อม เครื่องใช้ในครัว

ตระกูลมาร์เทนซิติค (Martensitic) เป็นตระกูลที่มีความต้านทานการกัดกร่อนน้อยกว่าออสเทนนิติค และเฟอร์ริติค แต่มีความทนทานและแข็งแรงมากกว่า มีคุณสมบัติดูดแม่เหล็ก โดยทั่วไปจะรู้จักกันใน “ซีรี่ส -00” สามารถนำไปผลิตและปรับใช้ให้เหมาะกับงานที่หลากหลายได้ ตัวอย่างเช่น ใช้ทำเครื่องมือผ่าตัด ทำตัวยึด ใบมีด เป็นต้น

ตระกูลดูเพล็กซ์ (Duplex) เนื่องจากมีโครงสร้างผสมระหว่าง โครงสร้างเฟอร์ไรต์และออสตไนต์ จึงทำให้มีความแข็งแรงมากกว่าออสเทนนิติคและมีความทนทานต่อการกัดกร่อน สามารถนำประโยชน์ในการทำอุปกรณ์ขนถ่ายวัสดุ ท่อและแผงอุปกรณ์แลกเปลี่ยนความร้อน เช่น การกลั่นน้ำทะเลเพื่อการบริโภค

 

สแตนเลส 304 (Stainless 304) มีส่วนผสมจาก โครเมี่ยม (Cr) ถึง 18% ซึ่งเมื่อเกิดปฏิกิริยา (React) กับออกซิเจน (O2) ในอากาศแล้ว จะสร้างฟิล์มบาง ๆ เคลือบบริเวณผิวของสแตนเลส และยังมีความสามารถพิเศษ ในการซ่อมแซมตัวเองได้ ด้วยคุณสมบัติของตัวเคลือบผิวนี้ จึงทำให้สแตนเลส 304 (Stainless 304) ทนต่อการกัดกร่อนสูง ไม่เป็นสนิม ไม่ดูดซึมสาร กลิ่น หรือ รสชาติของอาหาร ทั้งยังสามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน จึงทำให้มั่นใจได้ว่า การนำไปใช้กับอาหารนั้น ปลอดภัย ถูกสุขลักษณะอนามัย อย่างแน่นอน และนอกจากนี้ การดูแลรักษา การทำความสะอาดก็ง่าย

 

ชุดครัว SANKI ทุกรุ่น จึงเลือกใช้สแตนเลสเกรด 304 Hair Line ในการทำชุดครัว เพื่อให้ใช้งานได้ยาวนาน เพราะสแตนเลสเกรด 304 เป็นสแตนเลส Food Grade เหมาะสำหรับทำอาหาร ทำครัว และเป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย

สแตนเลสเกรด 201 จะมีน้ำหนักเบา นิยมใช้ในงานประเภทเฟอร์นิเจอร์ สแตนเลส 204 จะมีมีนิกเกิลผสมอยู่ไม่ต่ำกว่า 1% สแตนเลสที่มีส่วนประกอบของ โครเมียม (Cr) ,นิเกิล (Ni) และแมงกานีส (Mn) ด้วยส่วนประกอบเหล่านี้ ทำให้แม่เหล็กไม่สามารถดูดติดกับสแตนเลสได้ มีความทนทานต่อการกัดกร่อนได้ดี

ความแตกต่างระหว่างสแตนเลส 304 กับ 201 “สแตนเลส 304 กับ 201 นั้นต่างกันอย่างไร”

ทั้ง 2 เกรดมีความหนาเท่ากัน แต่ส่วนผสมทางเคมีไม่เหมือนกันจึงส่งผลให้ทนทานต่อการกัดกร่อนต่างกัน ซึ่งสแตนเลส 304 จะทนต่อการกัดกร่อน ทนต่อการเกิดสนิมได้ดีกว่า เกรด 304 นิยมนำมาใช้ในเครื่องครัวเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ มีนิเกิล อย่างน้อย 8-10.5% ซึ่งนิเกิลช่วยให้ทนต่อกัดกร่อนและป้องกันการเกิดสนิมได้ดี เกรด 201 มีนิเกิล2-4% ซึ่งมีโอกาศขึ้นสนิมได้สูงกว่าทนทานน้อยกว่า

 

 

Post by Admin Sanki

Comments are closed.